13 วิธีหล่อยางซิลิโคน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

1.เลือกยางซิลิโคนให้มีความแข็งที่เหมาะสม

                -หากต้องการหล่อชิ้นงานที่ไม่ได้ต้องการเน้นเก็บรายละเอียดเป็นพิเศษ ก็สามารถใช้ยางซิลิโคน ที่มีความแข็งกว่า(ประมาณ 30 Shore A) หรือแข็งกว่านั้น ได้ เพื่อให้ตัวแม่พิมพ์ยางซิลิโคนทนทานต่อการแกะ แรงดึง และความร้อน

                -ชิ้นงานที่มีลวดลายละเอียด หรือชิ้นงานที่กลัวว่าจะเสียหายขอแนะนำให้เลือก ยางซิลิโคน ที่นิ่มกว่าขึ้นมาเพราะยิ่งนิ่มจะทำให้การเก็บรายละเอียดของตัวชิ้นงานและการลอกแบบดีขึ้น

 

2.เลือกวิธีการหล่อแม่พิมพ์ที่เหมาะสม

                -แบบเทยางซิลิโคน : สำหรับตัวชิ้นงานที่มีลวดลายไม่ซับซ้อนขนาดไม่ใหญ่

                -แบบใช้แปรงทายางซิลิโคน : สำหรับชิ้นงานที่มีรายละเอียดซับซ้อนขนาดใหญ่หรือใหญ่เกินไป

                -ทั้งการเทและการใช้แปรงยางซิลิโคน : มีความเหมาะสมในบางครั้งขึ้นอยู่กับความถนัดของผู้ใช้งานและความเหมาะสมของตัวชิ้นงาน

    

 

3.การเลือกคุณภาพยางซิลิโคน

                   -ต้องมั่นใจในแหล่งหรือร้านค้าที่คุณซื้อยางซิลิโคน ว่าผู้ผลิตไม่มีการเติมน้ำมันซิลิโคนหรือสารอื่นๆเพื่อลดต้นทุนซึ่งหากมีการเติมลงไปในยางซิลิโคน จะทำให้น้ำยางซิลิโคนไม่ได้คุณภาพตามที่ควร

 

4.ใช้ผ้าใยแก้วเพิ่มความแข็งแรงให้ตัวแบบแม่พิมพ์

               

5.มีการใช้ตัวเร่งหรือตัวทำความแข็งหรือไม่

                -ตัวเร่งหรือตัวทำความแข็ง ช่วยเร่งความเร็วในการทำงานของยางซิลิโคน ให้แห้ง ช่วยให้ลอกออกง่ายและหลีกเลี่ยงการทำลายแม่พิมพ์เมื่อเกิดแรงดึง

 

6.ยางซิลิโคน ส่วน A และ B ผสมและคนให้เข้ากันหรือไม่

                -หากผสมน้ำยางซิลิโคนส่วน A และB ไม่ดี จะทำให้แม่พิมพ์ลอกออกยากและการใช้งานแม่พิมพ์ไม่มีประสิทธิภาพ

 

7.ดูดอากาศออกจากตัวยางซิลิโคน ก่อนการหล่อแบบแม่พิมพ์

                -หากแม่พิมพ์มีฟองอากาศอยู่ภายในตัวน้ำยางซิลิโคนเยอะ แม่พิมพ์ที่ได้จะไม่แข็งแรงและการใช้งานไม่ยาวนานเท่าที่ควรเนื่องจากเกิดช่องโหว่ภายใน

 

8.เพิ่มความหนาของแม่พิมพ์ยางซิลิโคน

                -แม่พิมพ์ยางซิลิโคนหนาเท่าไหร่แรงดึงและความต้านทานการฉีกขาดก็จะเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ ถ้าแม่พิมพ์บางเกินไปจะทำให้แตกและฉีกขาดได้ง่าย

 

9.ควรถอดชิ้นงานที่เป็นเรซิ่นและโพลียูรีเทนโดยเร็วที่สุด

                -เรซิ่นจะเกิดความร้อนมากซึ่งจะทำลายแม่พิมพ์ซิลิโคนได้ง่าย โดยทั่วไปเวลาในการบ่มของเรซิ่นคือ 3 นาที ดังนั้นควรถอดชิ้นงานออกจากแม่พิมพ์โดยเร็วที่สุดหลังจากผ่านไป 3 นาทีเพื่อป้องกันไม่ให้แม่พิมพ์ซิลิโคนไหม้

 

10.ในขั้นตอนการทำแม่พิมพ์ขอแนะนำว่าห้ามเติมน้ำมันซิลิโคนลงในยางซิลิโคน

                -น้ำมันซิลิโคนจะลดความแข็งและความหนืด ของยางซิลิโคนลง แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้คุณภาพของยางซิลิโคนลดลงด้วย

 

11.รักษาแม่พิมพ์ให้ปลอดภัยโดยไม่ให้เสียรูปทรง

                -อาจจะใช้ปูนปลาสเตอร์และเรซิ่นสำหรับแม่พิมพ์ด้านนอกเพื่อไม่ให้แม่พิมพืเกิดการเสียรูปทรง

 

12.การเก็บรักษาแม่พิมพ์ก็สำคัญมากเช่นกัน

                -เมื่อไม่จำเป็นต้องใช้แม่พิมพ์ควรวางให้เรียบบนชั้นวางหรือเติมน้ำยิปซั่มลงในแม่พิมพ์ ซึ่งวิธีนี้จะแก้ปัญหาการหดตัวและหลีกเลี่ยงการเสียรูปทรงได้

 

13.ควรถอดแม่พิมพ์ซิลิโคน ในขั้นตอนการผลิตหลังจากบ่ม 24 ชั่วโมง

                -แม่พิมพ์ซิลิโคนสามารถถอดออกได้หลังจากการบ่มภายใน 3-5 ชั่วโมงโดยทั่วไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความหนาและขนาดของตัวแม่พิมพ์ อย่างไรก็ตามควรถอดออกหลังการใช้งาน 24 ชั่วโมง เพื่อให้ยางซิลิโคนแห้งสนิท แข็งแรงและทนต่อแรงดึง